หม้อไอน้ำ (Steam Boiler) เป็นแหล่งพลังงานหลัก ที่สำคัญอย่างยิ่งในโรงงานอุตสาหกรรมเกือบจะ ทุกประเภท เป็นแหล่งที่ให้ทั้งพลังงานความร้อนและพลังงานกล ภายในหม้อไอน้ำ น้ำจะถูกให้พลังงานความร้อน จนมีอุณหภูมิสูงขึ้น ในสภาวะภายใต้ความดัน เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงจุดเดือดและกลายเป็นไอน้ำภายใต้ภาวะแรงดันที่กำหนด ไอน้ำก็จะถูกปล่อยออกมาใช้งาน เพื่อเป็นตัวพา พลังงานความร้อนไปสู่เครื่องจักร หรือ Heat Exchanger ชนิดต่างๆ ในกระบวนการผลิต หรือนำแรงดันไอน้ำที่ได้ ไปผลักดันเครื่องจักร เพื่อขับเคลื่อนหรือหมุนเครื่องจักร เช่น นำไปขับเคลื่อน หรือหมุนเครื่องกังหันเทอร์ไบน์ เป็นต้น
GESTRA Boiler Water Quality Monitoring
ความดันของหม้อไอน้ำโดยทั่วไปที่ใช้ก็มีตั้งแต่ 10-20 บาร์เกจ (10-20 barg) หรือต่ำกว่า ในโรงงาน ที่ใช้ไอน้ำเป็นตัวให้พลังงานความร้อนในกระบวนการ ผลิตทั่วๆ ไป และมีความดันสูงขึ้นไปมากจนถึง 30-40 บาร์เกจ (30-40 barg) หรือมากกว่า ในโรงงานที่ต้องการใช้แรงดันไอน้ำที่ผลิตได้ไปขับเคลื่อนเทอร์ไบน์เพื่อผลิต กระแสไฟฟ้า และในโรงงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ หม้อไอน้ำ อาจจะมีแรงดันไอน้ำสูงกว่า 100 บาร์เกจ (>100 barg)
หม้อไอน้ำจัดว่าเป็นเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่อันตรายมาก ต้องมีการควบคุมดูแลอย่างถูกต้องและเพียงพอ ตามมาตรฐานความปลอดภัยในการควบคุมหม้อไอน้ำนั้นต้องมีประสิทธิภาพเพียงพอที่ทำให้หม้อไอน้ำสามารถ ผลิตไอน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ไอน้ำที่สะอาดแห้ง (Dry Saturated Steam) ได้มาตรฐานและไม่มีละอองน้ำหรือ สารแขวนลอย (Carry Over) ปะปนมากับไอน้ำอันจะทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานความร้อนเสียไปและเกิด ความเสียหายในระบบไอน้ำได้
อันตรายที่เกิดจากหม้อไอน้ำ เกิดขึ้นได้หลายกรณี เช่น
1. หม้อไอน้ำอาจจะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากห้องเผาไหม้ร้อนจัด ความร้อนไม่สามารถ ส่งผ่านไปสู่น้ำภายในหม้อไอน้ำได้ทัน จนผนังของห้อง เผาไหม้ยุบตัวลงทำให้หม้อไอน้ำระเบิดรุนแรง สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก และสร้างความ เดือดร้อนเสียหายแก่ทางโรงงานเจ้าของหม้อไอน้ำ อย่างมาก นับเป็นอันตรายร้ายแรงสูงสุดที่เกิดจากหม้อไอน้ำ ซึ่งทางโรงงานจะต้องควบคุมหม้อไอน้ำของตนเองไม่ให้ เกิดการระเบิดเสียหาย อย่างมั่นใจและเด็ดขาด
2. หม้อไอน้ำมีค่าความเข้มข้นของสารละลายมากเกินไป สาเหตุนี้นอกจากจะทำให้หม้อไอน้ำเกิดการระเบิดเสียหายแล้ว ยังจะเป็นสาเหตุให้คุณภาพของ ไอน้ำต่ำ สีสารแขวนลอยลอยปะปนมากับไอน้ำเข้าไป ในระบบท่อ ผ่านอุปกรณ์ควบคุมหรือวาล์วต่างๆ เข้าไป ในเครื่องจักร หรือเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน ทำให้เกิดการเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ ในระยะเวลาอันสั้นและ เกิดการสิ้นเปลืองมาก
3. กระบวนการผลิตเกิดการเสียหาย ถ้าหม้อไอน้ำไม่สามารถผลิตไอน้ำที่มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอ ต่อการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไอน้ำจะมาๆ ขาดๆ อันเนื่องมาจากระบบควบคุมมีปัญหา ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ระดับน้ำในหม้อไอน้ำสูงเกินไปหรือระดับน้ำล้นหม้อไอน้ำ ทำให้ไม่สามารถผลิตไอน้ำออกมาใช้ได้ตาม ต้องการ เนื่องจากระบบควบคุมไม่ดี
ห้องเผาไหม้ของหม้อไอน้ำที่ระเบิด พังเสียหายอันเนื่องมาจากตะกรันจับจนไม่สามารถส่งผ่านความร้อนจากการเผาไหม้ไปสู่น้ำได้ทัน จนห้องเผาไหม้ร้อนจัดและระเบิดเสียหายในที่สุด
เป็นที่น่าเสียดายและน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ผลิตและผู้ใช้หม้อไอน้ำในบ้านเรายังไม่ให้ความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยของระบบควบคุมหม้อไอน้ำ ทั้งๆ ที่หม้อไอน้ำเป็นตัวหลักที่สำคัญ ในกระบวนการผลิตของโรงงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงความรวดเร็ว ของการผลิต ประสิทธิภาพและต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตนั่นเอง หม้อไอน้ำที่ใช้ในบ้านเราไม่น้อยยังไม่มีอุปกรณ์ ควบคุมที่เพียงพอ หลายๆ แห่งยังควบคุมการทำงาน ของหม้อไอน้ำโดยอาศัยคนงานคอยควบคุมปิด-เปิดวาล์ว ปิด-เปิดสวิตช์อยู่ตลอดเวลา คนงานผู้คอยควบคุม ก็ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบการทำงานของ หม้อไอน้ำ และความเป็นไปของไอน้ำภายใต้ภาวะแรงดันที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความเสียหายและเป็นอันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สินอยู่เนืองๆ อีกทั้งคุณภาพของไอน้ำ และประสิทธิภาพของหม้อไอน้ำก็ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตให้กับทางโรงงานอย่างไม่ควรจะเป็น และบางโรงงานต้องซื้อหม้อไอน้ำลูกใหม่อยู่เรื่อยๆ เนื่องจากปริมาณไอน้ำที่ได้ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่
บางโรงงานก็ยังใช้ระบบควบคุมแบบโบราณและ ล้าสมัย เช่น ระบบสวิตช์ลูกลอยซึ่งราคาถูกและมาตรฐานต่ำกว่าที่ควรจะใช้ ระบบลูกลอยแม้มีหลักการทำงานง่าย ใช้ได้ดีกับการคุมระดับน้ำโดยทั่วไป แต่ถ้าใช้ภายใน หม้อไอน้ำ ซึ่งมีความดันสูงและมีอุณหภูมิสูง และยัง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อุณหภูมิและแรงดันที่ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานี้ จะทำให้ลูกบอลมีการบุบ หรือเกิดรอยร้าวขึ้นได้ง่าย ทำให้ความเที่ยงตรงในการ ควบคุมระดับเสียไป ผลการควบคุมผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นภายในหม้อไอน้ำ ซึ่งมองจากภายนอก ไม่เห็นและไม่เป็นอันตรายมาก
อุปกรณ์ควบคุมหม้อไอน้ำนับว่ามีความสำคัญ เป็นอย่างยิ่ง ในประเทศที่พัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมแล้ว อันตรายที่เกิดจากหม้อไอน้ำที่รุนแรงเป็นสิ่งที่ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ประสิทธิภาพการทำงานของหม้อไอน้ำและคุณภาพของไอน้ำมีความสำคัญมากต่อต้นทุนการผลิต การที่ หม้อไอน้ำต้องหยุดเพื่อซ่อมแซมแก้ไขก่อนกำหนด คือ ความเสียหายต่อการผลิต จากความเป็นจริงเช่นนี้ จึงมีการกำหนดมาตรฐานของอุปกรณ์ควบคุมหม้อไอน้ำอย่าง เข้มงวด หม้อไอน้ำที่ใช้ในระดับความดันที่แตกต่างกัน ก็จะมีการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของอุปกรณ์ควบคุม ที่ต้องมีในหม้อไอน้ำแตกต่างกันด้วย หม้อไอน้ำที่มีอุปกรณ์ไม่ถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยหรือมีไม่ครบจะถูกสั่งห้ามจำหน่ายและห้ามใช้งานอย่างเด็ดขาด
ระบบควบคุมหม้อไอน้ำอัตโนมัติ ทำงานได้นาน 72 ชั่วโมง โดยไม่ต้องมีคนควบคุม
GESTRA เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ควบคุมหม้อไอน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่กำหนด นอกจากนี้ GESTRA ยังได้พัฒนาชุดควบคุมการทำงานของหม้อไอน้ำให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องอาศัยคน ควบคุมเป็นเวลานานถึง 3 วัน (72 ชั่วโมง) ทั้งนี้นอกจาก GESTRA จะผลิตอุปกรณ์ควบคุม หม้อไอน้ำที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยต่อการใช้งานแล้ว ยังมีระบบการทำงานที่เป็นอัตโนมัติง่ายต่อการควบคุมแล้วยังตัดปัญหาความ ผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากการกระทำของคน (Human Error) หรือขาดคนทำงานได้อย่างดี ระบบ ควบคุมหม้อไอน้ำของ GESTRA มีทั้งระบบที่ง่ายใช้อุปกรณ์น้อย แต่เพียงพอต่อมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยจนถึงระบบอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้เองโดยไม่ต้องมีคน คอยควบคุมดูแลเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง ตามที่กล่าวข้างต้นเลยทีเดียว
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เอ็นเนอยี่เทคโนโลยี่ จำกัด
Tel. +66 (0) 2721-3860 (20 Lines)
Fax +66 (0) 2721-3869
E-mail : [email protected]
http://www.energytechnology.co.th
|